คิดแบบรวยๆ

สวัสดีกันอีกครั้งนึงนะครับผม สำหรับเพื่อนๆที่ติดตามบทความผมมาตลอดต้องบอกเลยครับว่า ถ้าหากว่าเรายิ่งเดินไปไกลเท่าไร แม้ว่าเราจะยังไม่สำเร็จดังใจแต่เชื่อผมครับยิ่งคุณเดินไปไกลเท่าไหร่คุณก็จะยิ่งใกล้สิ่งที่คุณหวังมากขึ้นเรื่อยๆเท่านั้นครับ

แม้ว่าการเดินของคุณในขณะนี้คุณบอกผมมาว่าตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้วนะ ยังจะบอกได้อีกเหรอว่าใกล้เป้าหมายหรือว่าความสำเร็จแล้ว ใช่ครับผมกล้าบอกคุณว่าใกล้และใกล้ขึ้นเรื่อยๆแน่นอนครับถ้าคุณเดินต่อ เพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะว่าเส้นทางของแต่ละคนไม่เท่ากันครับ บางคนอาจจะเดินไม่กี่ก้าวก็ไปถึงได้ แต่บางคนเดินหลงแล้ว ล้มแล้ว ก็ยังไม่ถึง นั่นเป็นเพราะว่าทางของแต่ละคนไม่เหมือนกันครับ

ในเวลาที่คุณเดินมาแล้วล้ม หรือว่าหลงทาง คุณจะเกิดความทุข ความกังวล ความท้อแท้ แต่อยากจะให้คิดอีกมุมนึงครับ แล้วมองย้อนกลับไปว่าเราได้อะไรมาบ้างระหว่างทางที่เราหลง ทางที่เราล้มลง เราได้เรียนรู้อะไรมากมาย เรามีผู้ร่วมทำธุรกิจ เราได้รู้จักวิธีการแก้ไขปัญหาต่างๆ และที่สำคัญที่สุดนั่นคือ เราได้ลองทำแล้ว นี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดครับ

ต่างกับผมและอีกหลายคนมากมายที่ยังไม่ได้ลองหรือว่ายังไม่มีโอกาสได้ลองทำเลย คุณที่ได้เดินไปแล้วดีกว่าผมและคนอีกมากมาย ผมเชื่อว่าคุณล้มแล้วคุณก็ยังจำทางได้และรอวันที่จะเดินไปได้อย่างไม่หลงทางอีก ต่างกับผมและคนอีกมากมายเหมือนกันที่ยังไม่รู้อะไรเลย

ไม่รู้จะเริ่มที่ตรงไหน ต้องทำอะไร ต้องถามใคร ไม่รู้ ไม่รู้ และไม่รู้อะไรเลยเพราะยังไม่ได้เริ่มเดินเลย ผมถึงได้บอกว่ายังไงคนที่เดินไปเรื่อยๆ แม้จะหลงทาง แม้จะล้ม แต่ก็ยังใกล้ความสำเร็จมากกว่าคนที่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยครับ จงลุกขึ้นและเดินไปตามทางที่คุณเคยเดิน อย่างมั่นใจว่าคุณทำเพื่อเป้าหมาย ทำเพื่อคนที่คุณรัก เชื่อผมครับคุณใกล้มากแล้วครับ

การทำธุระกิจทุกอย่างไม่ว่าจะเล็กหรือว่าใหญ่แค่ไหนก็ตาม กว่าจะถึงในจุดที่ต้องการได้ผมไม่อยากจะบอกหรอกครับว่ามันต้องเจออะไรบ้าง แต่ว่าอยากจะบอกแบบนี้มากกว่า ว่าระหว่างทางที่เราเดินจะทำอย่างไรให้เรามีความสุขได้ตลอดเวลา

อันแรกคือตั้งเป้าหมายแน่นอนว่าทุกคนมีอยู่ในใจแน่นอนไม่ว่าจะต้องการรวยเพื่ออะไรก็ตามแต่ทุกคนจะมีเป้าหมายที่สูงสุดกว่าความรวยนั่นก็คือสิ่งที่ต้องการอยู่ลึกๆในใจซึ่งแต่ละคนก็มีอะไรที่ไม่เหมือนกันอีกแน่นอน เป้าหมายจะทำให้เราเดินไปด้วยความหวัง เดินไปด้วยใจที่รู้ว่าอะไรจะรอเราอยู่ที่ปลายทางข้างหน้า สิ่งที่เราต้องการนั้นรอเราอยู่นั่นเอง

โอกาสที่เราจะทำเพื่อสิ่งที่เรารัก สิ่งที่เราต้องการนั้นมันไม่ได้มีให้เราได้ทำบ่อยครั้งนัก แน่นอนบางครั้งอาจจะเดิมพันด้วยทุกอย่างในชีวิต หากว่าใครคนไหนกำลังสู้อยู่อย่างสุดใจอยู่ก็จงรู้เอาไว้ว่าคุณเดินเข้าไปใกล้กว่าคนอื่นแล้วครับ ไม่ต้องท้อ ไม่ต้องเศร้าใจไป คนที่ทำธุรกิจแล้วล้มยังดีกว่าคนที่ไม่ได้ทำอะไรเลยครับ

ผมเองก็ได้แต่บอกคนอื่นว่าให้สู้อย่าท้อแท้สิ้นหวังแต่ตัวผมเองยอมรับเลยว่ายังไม่ได้เดินไปข้างหน้าเลย แต่ก็ไม่ได้ไม่อยากก้าวเดินก้าวแรกนะครับ เพียงแต่ว่าตอนนี้มีมรสุมชีวิตเข้ามาซะก่อนครับเลยต้องหยุดทุกเรื่องเอาไว้ข้างหลังก่อน

ระหว่างทางที่เราเจอปัญหาให้คุณนึกถึงเป้าหมายของคุณครับ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน ครอบครัว คนที่คุณรัก คุณทำเพื่อทุกคนใช่ไหม หรือว่าคุณอยากขับรถสปอร์ตสักคันนึงไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม มีสาระ ไม่มีสาระ สำหรับใครๆก็ตามแต่ถ้าหากคุณชอบและใฝ่ฝันตั้งเป้าหมายถึงมัน มันคือสิ่งที่มีค่าสำหรับคุณครับ

อย่างบางคนตั้งเป้าหมายไว้ว่าต้องรวยเพื่อจะมีแฟนสวยสักคนนึงในชีวิตอันนี้ผมยอมรับเลยว่ามันเป็นแรงผลัก แรงกระตุ้นใจที่ดีที่สุดเลยครับ และเชื่อว่าหลายคนก็คิดเหมือนๆกันนะครับโดยเฉพาะผู้ชายอย่างเราที่เลือกอะไรไม่ได้ก็ต้องรวยเท่านั้นครับถึงจะได้อยู่ใกล้คนสวยกับเขาบ้าง

ตั้งแต่เริ่มออกเดินคุณจะมีความสุขและมีแรงทำงานเสมอถ้าคุณมีเป้าหมายเหล่านี้อยู่ในใจตลอดเวลา คุณทำเพื่อคนที่คุณรัก คุณทำเพื่อสาวสวยที่จะมาเคียงข้างคุณในสักวัน คุณทำเพื่อรถสปอร์ต คุณทำเพื่อครอบครัว รับรองว่าคุณแพ้ไม่ได้แน่นอน สู้เพื่อสิ่งที่คุณหวังอย่างมีความสุขครับ

การทำอะไรสักอย่างนึง ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม โดยเฉพาะธุรกิจ ต่างคนต่างต้องการความสำเร็จทั้งนั้นอยู่ที่ว่าใครจะมีวิธีการเดินไปอย่างไรให้ถึงจุดที่ต้องการนั้นได้ เป้าหมายของแต่ละคนคืออะไร แต่มีสิ่งหนึ่งบนโลกนี้ที่เป็นเป้าหมายได้ดีที่สุดนั่นก็คือ คนที่เรารัก

คนบนโลกนี้ต่างก็มีคนที่รักทั้งนั้น แต่บางครั้งก็ไม่ได้สมหวังกันได้ง่ายๆ การที่จะมีความรักที่มีความสุขนั้นอาจจะไม่ต้องใช้เงิน แต่ว่าปัจจุบันคงพูดไม่ได้แล้วถ้าหากว่าจะมีความสุขกับความรักแล้วไม่มีเงิน อะไรๆต่างต้องใช้เงินทั้งนั้น ไม่ว่าจะเที่ยว กิน และกิจกรรมทุกๆอย่างในชีวิตประจำวัน ต่างต้องใช้เงินทั้งสิ้น

คนหลายคนก็อยากมีแฟนอยากมีไว้เป็นดวงใจกำลังใจ สิ่งนี้จึงเป็นอะไรที่ท้าทายที่สุด จากคนไม่มีแฟนไม่มีคนรักไม่มีคนสนใจ ถ้าหากว่าการเดิมพันนี้เกิดประสบความสำเร็จแล้วรวยมีเงินขึ้นมาแน่นอนครับความฝันที่จะมีดวงใจน้อยๆสักดวงนึงมันก็ไม่ไกลเกินเอื้อมอีกต่อไปแล้ว

ผมเชื่อครับว่าหลายคนประกอบธุรกิจเพื่อความอยู่รอด เพื่อเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองและครอบครัว แต่สำหรับบางคนแล้วมันคือการต่อสู้เพื่อเป้าหมายที่เรียกว่าความรัก ความรักที่สวยงาม ความรักที่สะดวกสะบายเท่านั้นที่จะได้เป็นการตอบแทน

ไม่ต้องบอกผมหรอกครับว่าคุณไม่เห็นด้วย เพราะว่าความคิดของคนแต่ละคนก็แตกต่างกันไป และก็เจอ เจอะเรื่องราวแตกต่างไม่เหมือนกัน บางคนมองว่าง่าย บางคนมองว่ายาก แต่ผมได้รวบรวมสิ่งที่พบได้เจอมามาสรุปให้ฟังด้วยประสบการณ์ส่วนตัวของผมเท่านั้นครับ ไม่ได้อ้างอิงกับทฤษฏีใดๆนะครับ ต้องบอกไว้ตรงนี้เลย

หากคุณเป็นเหมือนผม คนที่ไม่มีสาวสนใจ ไม่มีใครเหลียวแล คุณก็จะเข้าใจแต่ถ้าหากว่าไม่ใช่ก็ขอให้คุณข้ามบทความนี้ไปก็ได้ครับ เป้าหมายของการทำธุระกิจเพื่อสร้างแรงใจ สร้างกำลังใจได้ดีที่สุดก็คือการทำเพื่อให้ได้สาวสวยครับ เป็นสิ่งที่กระตุ้นและสร้างกำลังใจให้สู้ให้ฮึกเหิมได้ดีที่สุดในทุกวันนี้ครับ

สำหรับเพื่อนๆหรือผู้ที่มีเป้าหมายที่แตกต่างออกไปก็ไม่ต้องซีเรียสอะไรมากมายนะครับ เพราะว่าอย่างที่ได้บอกไปแล้วว่าคนเรามีอะไรไม่เหมือนกันผมเพียงแค่ยกตัวอย่างเท่านั้นครับว่าเป้าหมายมันมีอะไรได้บ้าง ก็สุดแล้วแต่ว่าเราจะเลือกเป้าหมายแบบไหนใช้กระตุ้นตัวเองได้ดีที่สุดครับ

สวัสดีอีกครั้งนะครับ ผมได้พูดไปมากมายเกี่ยวกับการทำใจหรือปรับสภาพจิตใจเราให้สู้ และคิดเสมอเวลาที่เจอกับปัญหา แต่ในวันนึงเมื่อเราปักธงได้สักผืนนึงมันจะเป็นอย่างไร

แน่นอนว่าการปักหลักสักที่หนึ่งไม่ได้เป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้ได้ภายในวันเดียวต่างต้องใช้เวลาไม่มากก็น้อย อยู่ที่ว่าปัจจัยต่างๆของแต่ละคนนั้นจะเอื้ออำนวยมากน้อยแค่ไหน

มีหนึ่งก็ต้องมีสองได้ไม่ได้หมายความว่าเราสำเร็จได้อย่างเดียวนะครับ การผิดพลาดก็เหมือนกัน เมื่อมีผิดพลาดครั้งที่หนึ่งก็มีการผิดพลาดอีกครั้งที่สองได้เหมือนกัน บนโลกนี้ไม่ได้มีอะไรแน่นอนเลยสักอย่าง เราไม่สามารถควบคุมหรือว่าจัดการอะไรได้เลย นอกจากว่าเราจะพยามทำให้ดีที่สุด

ตรงกันข้ามหากว่าเราประกอบธุรกิจเปิดร้านสักหนึ่งที่แล้วถ้าหากว่ามันยืนได้แล้วผมเชื่อว่าคุณไม่อยากมีที่เดียวแน่นอน ต้องมีสอง ต้องมีสามตามมา คนเราเมื่อก้าวแรกไปได้ก็ต้องก้าวต่อไปครับ หากเราไม่ยอมหยุดเดินซะอย่างเชื่อว่าอย่างไรเราก็ต้องเดินไปข้างหน้าได็ในสักวันครับ

ที่พูดแบบนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะให้ท้อแท้หรือว่าอะไรนะครัีบ เพราะว่าอยากให้เข้าใจมากกว่าว่าความสำเร็จมันหอมหวานยั่วยวนมากก็จริงแต่ว่าก่อนจะได้ลิ้มรสมัน เราเองอาจจะต้องแลกด้วยอะไรหลายๆอย่างที่เราต้องเจ็บปวด ทรมาณก่อนมากๆ แต่ถ้าหากว่าเราเจ็บเมื่อใดก็ตามให้เราพยามคิดถึงจุดหมาย ความสำเร็จข้างหน้าครับ หรือว่าอะไรก็ได้ที่คุณคิดว่าเมื่อคุณทำได้แล้วคุณจะได้ลิ้มลองรสชาติของความสุข ผมเชื่อว่าอย่างน้อยคุณก็จะลุกเดินไปหาความสำเร็จต่อไปได้แน่นอนครับ

ไม่รู้ว่าเคยได้ยินหรือปล่าวนะครับเรื่องแบบนี้แต่ว่าคนที่ได้เรียนการตลาดอาจจะรู้เรื่องนี้ดีกว่าผมก็ได้ ผมเองก็เคยเรียนการตลาดเหมือนกันมันเป็นหนึ่งในวิชาที่ต้องเรียนครับแต่ผมไม่ได้เรียนการตลาดนะครับ

ทฤษฏีป่าล้อมเมืองผมไม่ได้รู้มาจากตอนที่เรียนหรอกครับแต่ว่ารู้มาจากหนังเรื่องท็อฟซีเคล็ด วันรุ่นพันล้าน หนังไทยที่ให้แรงบันดาลใจและพลังใจในการทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จครับ โดยเอาเค้าโครงจากเรื่องจริงมาสร้างให้เราได้สำผัสความรู้สึกต่างๆในระหว่างการต่อสู้ชีวิตไปสู่ความรวยกัน

หากว่าเราต้องการขายขนมสักอย่างนึงแล้วเราก็มีร้านขายของเราเองถ้าใครมาได้ขนาดนี้ผมว่ามันน่าดีใจมากแล้วนะครับ สมมติว่าเราขายได้วันละ 100 ห่อต่อวัน ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่สุดยอดแล้วถ้าร้านเราขายของวันนึงได้ขนาดนั้น แต่ถ้าหากว่าเราขายได้วันละ 1000 ห่อต่อวันล่ะ มันจะเป็นยังไง จะดีกว่าไหม

เราลองมานั่งคิดครับว่าจะทำอย่างไรในเมื่อร้านเราขายได้เต็มที่ก็แค่ 100 ห่อต่อวัน มันก็มีทางเดียวก็คือต้องเปิดร้านเพิ่มในอีกที่ในกลุ่มลูกค้าใหม่ ไม่ใช่ว่าเปิดใหม่ใกล้ๆกันนะครับ การจะเปิดร้านได้สักร้านนึงแน่นอนว่าใช้เงินทุนสูงแน่นอน

ไหนจะเรื่องที่ทำเล ไหนจะเรื่องค่าเช่าที่ ไหนจะเรื่องจ้างพนักงานดูแล มันจิปาถะครับ แต่ถ้าหากว่าไหวผมก็เอาใจช่วยเต็มที่ให้คุณประสบความสำเร็จครับ ผมเองก็อยากเดินไปถึงจุดนั้นได้เหมือนกัน ผมไม่ได้ต้องการรวยเป็นร้อยล้านอะไรหรอกแค่อยากมีร้านอะไรของตัวเองสักร้านนึงที่เลี้ยงตัวเองได้อย่างมั่นคง

อย่างเรื่องวันรุ่นพันล้านตัวอย่างของทฤษฏีนี้คือ ทำยังไงให้คนรู้จักสินค้าของเรามากๆ และหาซื้อได้ง่ายๆ เรียกว่าไปหาซื้อที่ไหนก็มีให้ซื้อมีให้กินเป็นต้น มาลองนึกดูก็มีเซเว่นนี่แหละที่ตอบโจทย์นั้นได้ เซเว่นเป็นอะไรที่ทุกคนรู้จักคุ้นเคย ซื้อง่ายจ่ายสะดวก และก็มีอยู่ทุกตอกซอยก็ว่าได้

และการที่เราเอาสินค้าของเราเข้าเซเว่นได้มันถือว่าเป็นความสำเร็จมากๆในจุดหนึ่งแล้วนะ แต่ว่าก็ต้องมีการขยายผลต่อเพื่อกระตุ้นให้คนรู้จักสินค้าของเราไม่ว่าจะโฆษณา ไม่ว่าจะใบปลิวประกาศอะไรต่างๆ ถือว่ามีอะไรให้ทำเยอะครับไม่ใช่ว่าเข้าไปแล้วจบ

หากว่าเราลองมานึกดูต่อถ้าไม่ใช่เซเว่นหละจะมีอะไรให้เราได้เป็นป่าล้อมเมืองได้อีก เป็นคำถามที่ยากสุดๆอะ ผมอยากให้ทำเมืองให้แคบลงมาก่อนครับเราอย่าเพิ่งไปคิดทั้งประเทศก็ได้เอาแค่เล็กๆก่อน อย่างโลตัสเป็นไง เท่าที่ผมได้สัมผัสนะครับตามโลตัสในต่างจังหวัดถือว่าคนเยอะใช้ได้เลย เพราะว่าต่างจังหวัดไม่ได้มีที่เที่ยวหรือว่าที่กินเยอะเหมือนในกรุงเทพ

ดังนั้นเวลาที่คนต่างจังหวัดจะหาอะไรกินหรือเดินช็อปปิ้งก็จะไปโลตัสกันซะส่วนใหญ่ครับ ลองดูนะครับเอาใจช่วยเพราะผมก็กำลังจะเดินไปแบบนี้เหมือนกัน เริ่มจากโลตัสนี่แหละครับอยากขายอะไรก็ดูทำเลคนเดินหน่อยให้เหมาะกับของที่เราขาย อาจจะจ้างพนักงานมาขายให้เราก็ได้ครับถ้ามีเงินทุนสูงนะครับ เผื่อว่าคุณมีงานประจำอยู่แล้วไม่มีเวลาเฝ้าร้านก็ต้องเอาแบบนี้แหละครับ สู้ครับ

คนเราทุกคนต่างมีรอยยิ้มทั้งนั้นเวลาที่มีความสุขนะครับ แต่จะมีกี่คนที่เวลาเศร้า เวลาเจอปัญหาแล้วจะยิ้มให้กับสิ่งที่เจอที่เข้ามาเหล่านั้นได้ เชื่อมั้ยครับไม่ว่าคุณจะเจอกับเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าคุณยิ้มไว้ก่อนนั่นคือการเริ่มต้นรับมือสิ่งๆนั้นที่ดีมากๆครับ

ทำไมเวลายิ้มแล้วรู้สึกดี หลายคนบอกว่ายิ้มไม่ออกหรอกเวลาเจอเรื่องเครียดๆอะ เวลาที่หางานทำไม่ได้อย่างเนี้ยใครจะไปยิ้มออก อย่าคิดอย่างนั้นเลยครับ อยากให้คุณคิดอีกทางนึงว่ามันเป็นแค่เรื่องตลก ปัญหาทุกอย่างบนโลกมันเป็นเรื่องตลกเดี๋ยวมันก็ผ่านไปได้

ยากครับผมเองยอมรับว่าทำได้ยากถ้าหากเจอปัญหาชีวิตหนักๆแล้วยังจะยิ้มได้อยู่อย่างเดิม บอกได้ว่าทุกอย่างมันรุมเร้าหัวใจครับ มันทรมาณมันเครียดมันกดดัน เวลาคนเราไม่มีทางออก ไม่มีที่ไปมันเป็นอะไรที่ทรมาณสุดๆอะครับขอบอก

ถามว่าจะทำได้อย่างไรจะให้ยิ้มออกมา หากว่าอยากจะยิ้มออกมาได้ในเวลาที่เราทุกข์เราเครียดนั้นก็คงจะต้องทำใจก่อน เริ่มที่ใจ ต้องทำต้องคิดให้ยอมรับกับปัญหาที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ให้ได้ก่อน และค่อยๆยิ้มออกมาแม้มันจะเป็นการฝืนใจยิ้มก็ตาม

บางครั้งการยิ้มเวลาที่เศร้าเวลาที่เราทุกมันก็ช่วยบรรเทาความทุขนั้นได้นะครับ เพราะว่าเมื่อเรายิ้มสมองจะหลั่งสารความสุขออกมาทำให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และรู้สึกโล่งสมองขึ้น ยังไงก็สู้กับปัญหาที่เข้ามาหาเรานะครับ

มีอีกมากมายหลายอย่างบนโลกนี้ที่เราไม่รู้ เราไม่เคยเจอ ยอมรับกับมันให้ได้แล้วพยามหาทางออกครับ หาไปเรื่อยๆ ไม่ว่าจะยังไงคิดไว้เสมอว่าเราต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปครับ ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ไม่ว่าจะตลอดชีวิตขอให้เราทำวันนี้ให้ดีที่สุดครับ ผลจะออกมาเป็นอย่างไรขอให้ทำใจให้ยิ้มไว้ครับ

ความสุข คนเราไม่ได้มีทุกวัน ความทุกไม่ได้อยู่กับเราตลอดไป แต่เราเลือกได้ว่าจะอยู่กับมันอย่างไรให้ความสุขอยู่กับเรานานๆ และให้ความทุกข์ไม่มารบกวนใจเราให้เศร้าหมองครับ

จะมีกี่วันกี่คืนที่คุณอยากจะไปเที่ยวกันบ้างหรือปล่าว นานมากแล้วนะครับที่ผมไม่ได้ไปไหนเลย อยู่แต่บ้าน อยู่แต่บ้านแล้วก็อยู่แต่บ้าน ทำไงได้ครับไม่ได้เกิดมารวยพร้อมเหมือนอย่างใครๆเขา

เที่ยวด้วยกายและใจ แน่นอนครับว่าการไปเที่ยวก็ต้องไปพักผ่อนอย่างเต็มที่ทั้งกายและใจ แต่บางครั้งเราอาจจะไม่มีโอกาสไปเที่ยวได้เหมือนคนอื่นๆเค้านอกจากว่า เราจะรวยพอที่จะทิ้งงานทิ้งการไปเที่ยวได้ เพราะไม่งั้นเราก็คงจะไปเที่ยวได้อย่างไม่สนุกแน่นอนเพราะว่าในใจเราเป็นห่วง

เราลองนึกดูสิครับถ้าหากว่าเรารวย เวลาเราไปเที่ยวเราจะรู้สึกว่าหลุดโลกมากแค่ไหน แน่นอนว่าสุดๆอะครับ ดังนั้นการเที่ยว ความอยากเที่ยวก็จะเป็นอีกแรงกระตุ้นหนึ่งที่จะทำให้เราอยากรวย และมีแรงที่จะคิดหาทางรวยต่อไปโดยที่จะไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยและท้อแท้มากนัก


การเที่ยว ได้เที่ยวเหมือนเป็นการให้รางวัลชีวิตครับ การได้ไปเปิดหูเปิดตา การได้ไปที่ที่เราไม่เคยไปสักครั้งในชีวิตมันเป็นอะไรที่ทำให้เราได้รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจจริงๆนะครับ ยิ่งถ้าหากว่าใครกำลังมีความรักแล้วละก็ลองพาคนที่คุณรักไปเที่ยวด้วยกันสิครับ ผมเชื่อว่ามันจะเป็นเรื่องที่น่าจดจำไปตลอดชีวิตจริงๆครับ

ดังนั้นก็อย่าลืมให้รางวัลชีวิตของตัวคุณเองบ้างนะครับ ถือว่ารักตัวเองก็ยังดีครับ

โดยเฉพาะคนรักของคุณให้อะไรกับเค้าหรือเธอด้วยการพาไปเที่ยวสิครับ ผมรับรองว่าคุณและคนรักของคุณจะประทับใจและมีเรื่องราวของกันและกันให้ได้จดจำ ปละประทับใจไปแบบไม่รู้ลืมแน่นอนครับ ในวันนึงที่คุณแก่ตัวลง คุณจะนึกถึงมันครับ... ว่าเป็นเวลาที่ดีเหลือเกิน

ถ้าหากว่าเราท้อแท้สิ้นหวังเมื่อไหร่ถ้าหากว่าเราเป็นเอามากๆขนาดที่ว่าจะอยู่ต่อไปได้อย่างไรแล้วละก็ ฟังทางนี้ด่วนเลยครับ

คำถามนี้ผมว่ามันน่าสนใจเหมือนกันนะครับ เพราะว่าคนเราทุกคนไม่ว่าใครๆก็อยากรวยมีเงินใช้กันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าใครบ้างเล่าที่รวย

เราลองมานั่งคิดดูนะครับว่าคนรวยต้องมีรายได้เท่าไหร่ถึงจะเรียกว่ารวย สามหมื่น สี่หมื่น ห้าหมื่น หนึ่งแสน สองแสน หรือว่าหลักล้าน???

หากว่าเราได้เงินเดือนละ 10000 หละ รวยหรือไม่??? มีเสียงตะโกนบอกมาเยอะนะว่าไม่รวย จะไปพอกินอะไร... มีเยอะเลยที่บอกแบบนี้ แน่นอนผมก็คิดว่าไม่รวย อะนะ ทำไงได้

แต่บางครั้งเงินเดือนไม่จำเป็นต้องถึงแสนก็รวยได้แล้ว ถ้าหากว่ารายจ่ายไม่มีมากมาสูสีกับรายรับอะนะครับ

ต้องบอกอีกอย่างหนึ่งว่าความรวยนั้นดูได้จากเงินเหลือใช้ในแต่ละเดือนครับ จริงมั้ย...หากว่าเราได้เงิน 20000 บาท แล้วเหลือเก็บ 10000 บาท กับคนได้เงิน 30000 บาท เหลือเงินเก็บ 5000 บาท คุณคิดว่าใครรวยกว่ากัน ถ้าตอบว่า 20000 บาท ก็อาจจะผิดได้อีกเหมือนกันเพราะว่า คนที่ได้สามหมื่นบาทอาจจะเอาไปลงทุนธุรกิจ หรือไม่ก็ใช้จ่ายซื้อความสะดวกสะบายอยู่

หรือถ้าเรามองที่ความสะดวกสะบายผมว่ามันก็วัดได้นะครับว่ารวยหรือไม่รวย บางครั้งนิยามใดใดก็บอกไม่ได้เหมือนกันว่าคนไหนรวยหรือไม่รวย สุดท้ายแล้วผมว่าความสบายใจมากกว่าที่จะบอกได้ว่าเรารวยแค่ไหนครับ

ครับเรายังอยู่กับการเตรียมจิตใจเพื่อรองรับแรงกระแทกที่จะถาโถมมาในอนาคต อย่าเพิ่งเบื่อกันเลยครับกับการเตรียมตัวต่างๆ เพราะถ้าวันนั้นมาถึงจริงๆเราจะได้แกร่งที่สุดเท่าที่จะแกร่งได้เพื่อรับมือกับมันครับ

ความเป็นจริงแล้วคนที่เหมาะที่จะทำธุรกิจที่สุดผมว่าต้องเป็นคนที่ไม่คิดมากครับหรือว่าคิดให้น้อยๆ เพราะถ้ามัวแต่คิดมากเกินไปบางครั้งกลายเป็นความกลัวจนไม่กล้าเดินหรือว่าเดินช้ามากไปจนสายนะสิครับ หลายคนบอกว่าคิดมากๆไว้ก่อนนะดี จะได้รอบคอบ เอาเป็นว่าเราจะมีจุดที่สมดุลย์ได้ัอย่างไรเมื่อแต่ละคนคงมีอะไรแตกต่างกัน เอาเป็นว่าทำยังไงก็ได้ครับให้คุณเริ่มก้าวเท้าเดินหน้าไปให้ได้ก่อน

ระหว่างทางเดินแน่นอนให้เราหาเพลงปลุกใจ หรือว่าเป็นเพลงที่เราฟังแล้วให้พลังเติมพลังให้เราได้ตลอดเวลาสักเพลงหรือหลายๆเพลงก็ได้ ยิ่งเยอะก็ยิ่งดีครับ เชื่อว่าทุกคนมีเพลงในใจตลอดเวลาอยู่แล้วอย่างเรานั่งรถเมล์แม้ว่ารถเมล์จะไม่ได้เปิดเพลงให้เราฟัง แต่เชื่อได้เลยว่าในใจทุกคนกำลังร้องเพลงหรือนึกถึงเพลงๆหนึ่งอยู่ระหว่างเดินทางทุกคนจริงมั้ย

เพลง ถือว่ามีอิทธิพลต่อชีวิตของทุกๆคนจริงๆนะครับ เพลงเปรียบเหมือนลมหายใจที่สองก็ว่าได้ เพลงช่วยหล่อเลี้ยงจิตใจและอารมณ์เราได้อย่างดีที่สุด อยู่ที่ว่าเราจะเลือกหล่อเลี้ยงอย่างไร จะหล่อเลี้ยงให้สนุกสนานกระชุ่มกระชวย จะเลี้ยงแบบสบายๆ หรือจะทำร้ายตัวเอง จะเหงาจะเศร้า จะทุกข์ เพลงทำให้เราได้ทั้งนั้น

คนเรามีทั้งความสุขและความเศร้าปนกันไป อยู่ที่ว่าใครจะเลือกอยู่กับความสุขมากกว่าหรือว่าจะอยู่กับความเศร้ามากกว่าเท่านั้นเองครับ

พูดถึงตัวช่วยทางธุรกิจแล้วหลายคนที่ไม่เคยทำธุรกิจหรืออะไรมาก่อนเลยคงจะต้องการหาตัวช่วยเป็นอย่างมากและก็เป็นเรื่องที่ถูกต้องครับ การเดินทางหากเราไปกันหลายๆคนมันย่อมดีกว่าและอุ่นใจกว่าอยู่แล้ว

ตัวช่วยทางธุรกิจมีอะไรบ้างในเบื้องต้นเราลองมานั่งคิดกันดูครับ
1.เพื่อนคู่คิด แน่นอนตัวช่วยที่มือใหม่ต้องการมากที่สุดนั่นก็คือเพื่อน เพื่อนที่นี้อาจจะไม่ได้หมายถึงเพื่อนจริงๆก็ได้แต่หมายถึงใครก็ได้ที่จะคอยช่วยคิดช่วยแก้ปัญหาให้เรา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน พี่น้อง ญาติ พ่อแม่ หรือแม้กระทั่งแฟน ทุกคนในที่นี้ล้วนแล้วแต่สำคัญทั้งสิ้น บุคคลต่างๆเหล่านี้จะอยู่ข้างๆคุณในเวลาที่คุณเจอกับปัญหาต่างๆ ดังนั้นอย่าลืมหาเพื่อนคู่คิดไว้เยอะๆครับ

2.เงินทุน แน่นอนว่าธุรกิจต่างๆต้องใช้ทุนทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นธุรกิจเล็กหรือว่าใหญ่แค่ไหน ดังนั้นการมีเงินทุนก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญและเป็นเครื่องมือที่จะขาดไม่ได้เลยก็ว่าได้ ต่อให้เรามีความคิดที่ดีและมองเห็นความเป็นไปได้มากมายแค่ไหนก็ตามแต่ถ้าหากว่าไม่มีเครื่องมือหรือว่าตัวช่วยนี้ก็คงจะเริ่มต้นได้ลำบากครับ ถามว่าจะหาทุนได้จากไหน ผมได้พูดถึงไว้แล้วในหมวดของเครื่องมือแล้วนะครับไงก็ลองเข้าไปอ่านกันดูได้ครับ

3.คน ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากที่จะละเลยไม่ได้เลยเหมือนกันนะครับ ลองนึกดู เป็นต้นว่าเราต้องการเปิดร้านขายของสักสาขานึงเราเองก็ต้องจ้างพนักงานขาย ซึ่งเเ่น่นอนก็ต้องดูมากๆที่ไว้ใจได้ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราเองก็ต้องเปิดใจและก็ต้องพร้อมที่จะเอาใจใส่กับคน เรียกว่าต้องใช้ใจซื้อใจกันละครับ ขอให้คุณจริงกับพนักงานหรือคนงานของคุณให้เต็มที่ ผมเขื่อว่าเขาต้องจริงใจกลับมาหาคุณแน่นอนครับ

4.เครื่องจักรหรืออาวุธ ในทที่่นี้หมายถึงโดยรวมๆนะครับ ถ้าหากว่าเป็นร้านค้า ตัวร้านก็ถือว่าเป็นอาวุธหรือว่าเครื่องจักรของเราครับ อย่างหนังเรื่องท้อปซีเคร็ด อาวุธที่เราได้เห็นที่เป็นเครื่องจักรก็คือเครื่องอบเกาลัดนั่นเอง ต่อมาก็เป็นโรงงานผลิตสาหร่าย เป็นต้น

ยังมีอะไรอีกหลายอย่างที่เราจะใช้เป็นตัวช่วยทางธุรกิจของเราได้อีกเยอะเเยะครับซึ่งระหว่างทางเดินคุณจะได้รู้และได้ใช้มันเอง เจอมันเองโดยที่คุณอาจจะไม่ต้องตามหาเลยก็ได้ครับ

ใครเข้าใจบ้างครับอารมณ์แห่งความหมดหวังความสิ้นหวัง ไม่รู้ทำไมนะครับผมถึงได้เจอมันบ่อยๆจนเป็นเรื่องประจำและปรกติไปซะแล้ว อารมณ์ของคนสิ้นหวังเป็นอย่างไรและจะแก้ไขได้อย่างไรลองมาดูกันครับ

ความผิดพลาด ความล้มเหลวในเรื่องต่างๆนั้นเป็นสิ่งที่ปรกติที่เราทุกคนต่างต้องเจอครับ ไม่ว่าใครๆก็ต้องพบและหลบเลี่ยงไม่ได้อย่างแน่นอน เรื่องเล็กๆก็อาจจะไม่น่าเป็นอะไรมากแต่ถ้าหากว่าเป็นเรื่องใหญ่แล้วเราจะเผชิญหน้ากับมันอย่างไร

หลายคนเจอกับเรื่องร้ายๆหนักๆ อย่างเรื่องที่มีผลกระทบต่อจิตใจมากๆอย่างเรื่องความรัก ใครหลายๆคนอาจจะทำใจไม่ได้ รับไม่ได้ถึงกับทำร้ายตัวเองได้เลยก็มี ในช่้วงเวลาแบบนั้นยากที่ใครจะคิดอะไรได้ การรับมือกับเรื่องแบบนี้ต้องอาศัยใจเท่านั้น ใจที่เข้มแข็งจะสามารถ ผ่านเรื่องนี้ไปได้ในเวลาอันไม่ช้า แต่ถ้าเป็นคนที่ใจไม่เเข็งแรงพอก็ต้องอาศัยเพื่อนละครับที่จะอยู่เป็นเพื่อนและดูแลเราเวลาที่เราไม่มีใคร คงทำได้เท่านั้นจริงๆ หรืออีกวิธีนึงก็คือหาอะไรทำเพื่อหนีเรื่องนี้ไปไม่ให้คิดไม่ให้นึกถึง เมื่อเวลาผ่านไปก็จะบรรเทาความเจ็บปวดนี้ได้เอง

สำหรับเรื่องล้มเหลวในการงานหรือธุรกิจหรือสิ่งสำคัญที่คุณกำลังทำอยู่ ถ้าหากว่าใครเก๋าพอแล้วคงรับมือได้สบายเพราะว่าคนเก๋าๆ มักจะไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียวเสมอ อย่างเช่น นายสิงทำธุรกิจขายน้ำหอมจนสามารถเปิดสาขาได้ถึง 10 สาขา เมื่อสาขาใดไม่ประสบความสำเร็จนายสิงก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ก็ยังสามารถกลับมาเปิดสาขาใหม่ได้ไปเรื่อยๆอีกเป็นต้น

แต่เรื่องที่มันเลวร้ายมากๆมักจะเกิดกับคนที่เพิ่งเริ่มต้นนี่สิมั้นเป็นเรื่องใหญ่จริงๆ ผมเชื่อครับว่าทำคนล้มแล้วยังไงก็จะสามารถลุกขึ้นมาใหม่ได้ จงเชื่อครับว่ามีแสงสว่างอยู่เสมอ จงลุกเดินต่อไปเรื่อยๆครับ ผมคนนึงคนนี้ก็กำลังสิ้นหวังไม่เหลืออะไรเหมือนกัน ก็จะพยามเดินต่อไปเท่าที่จะมีแรงครับ ขอให้ทุกคนโชคดีครับ

จำไว้ครับว่าบนโลกนี้ทุกล้วนเป็นไปได้ทั้งหมด ไม่ว่าสิ่งๆนั้นที่เราต้องการจะยากแค่ไหน เคนได้ยินคำว่าไม่ยากเกินความสามารถของมนุษย์หรือไม่ครับ

เดิมทีแล้วเราสร้างความกลัวขึ้นมาเองทั้งนั้นครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามเราคิดเราจินตนาการไปเองทั้งนั้น คนแต่ละคนมีความคิดที่ต่างกันอยู่แล้ว และความกล้าของแต่ละคนก็ต่างกันออกไปอีก มันจึงทำให้ความรู้สึกยากง่ายในการทำอะไรบางอย่างของคนแต่ละคนต่างกันไปครับ

อย่างคนที่มีความกลัวอยู่มากก็จะคิดเสมอว่ามันจะพลาด มันจะผิด ถ้ากลัวเกินไปก็จะกลายเป็นว่าถอยไปเลยไม่เอาไม่สู้กับอุปสรรคตรงหน้า ไม่สามารถยอมรับอะไรได้ง่ายๆ ขณะที่ในเวบลาเดียวกันคนที่ไม่คิดอะไรเลย กลายเป็นว่ากล้าที่จะเดินเข้าทางลูกรังที่แหลมคม ทั้งเจ็บเท้าทั้งทรมาณแต่ก็ยังกล้าเดินเข้าไป

หากถามว่าทำไมเราต้องคิดว่ามันเป็นไปได้ ผมตอบไม่ได้แต่ว่าแน่นอนถ้าเราลองทำอะไรสักอย่างมันมีความเป็นไปได้เสมอไม่ว่าอะไรก็ตาม ขอให้เราได้ลองทำลองเสี่ยง อย่างถ้าเราไม่ซื้อหวยเลยสักใบเราก็ไม่มีความเป็นไปได้เลยที่จะถูกหวย แต่ขณะเดียวกันถ้าเราซื้อหวยสักใบนึงนั่นเท่ากับเรามีโอกาสขึ้นมาแล้วแม้จะน้อยก็ตาม แต่ก็ไม่ได้เป็นศูนย์

จงเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้ เดินไปเลย

ผมยอมรับครับว่าคนที่มุ่งมั่นจริงจังต้องมีความเครียดอยู่ไม่น้อยเลยในการทำธุรกิจ แน่นอนเพราะคนมุ่งมั่นทุ่มเทก็มักจะหวังไว้ค่อนข้างมากเหมือนกันว่าสิ่งที่เขาทุ่มเทนั้นคือชีวิตเขาทุ่มให้ทั้งชีวิตแล้วใครจะมาอารมณ์ขันหรือตลกได้ในระหว่างนี้

อืม..ผมเองก็เป็นคนนึงที่อยากจะอารมณ์ดีนะเวลาทำธุรกิจ อยากจะสนุกเหมือนในหนังเรื่อง วัยรุ่นพันล้าน หนังไทยที่สร้างแรงบันดาลใจให้วัยรุ่นได้ดีมากๆ เชื่อว่าวัยรุ่นที่มีความคิดดีดีอยู่ในตัวจะเกิดพลังขึ้นมากมายเมื่อดูหนังเรื่องนี้จบ

บางทีอิจฉานะครับสำหรับคนที่เกิดมาเพียบพร้อมเงินทอง พร้อมที่จะทำอะไรก็ได้คนกลุ่มนี้คงเป็นคนกลุ่มเดียวที่สามารถทำให้เรื่องแบบนี้สนุกเหมือนในหนังได้ เพราะว่าคงไม่มีอะไรกดดันอยู่ด้านหลัีงเหมือนคนที่ทุ่มทุกอย่าง เททุกอย่างจนไม่เหลืออะไรเพื่อที่จะวัดความสำเร็จเหมือนอย่าง ต๊อบ ตัวละครเอกในหนังและบุคคลจริงที่มีอยู่จริง

แต่เราทุกคนไม่อาจจะรู้ได้หรอกครับว่ามันจะสนุก มันจะลุ้น หรือว่ามันจะเครียด กดดันแค่ไหน หากว่าเรายังไม่ได้เริ่มลองทำอะไรเลย ผมคิดเสมอครับว่ามันเป็นเรื่องสนุกจริงๆ เวลาเราทำธุรกิจสักอย่างไม่ว่าจะใหญ่หรือว่าเล็กแค่ไหน สนุกทั้งนั้นครับ ว่าจะเิกิดอะไรขึ้นบ้าง


แล้วเปลี่ยนความเครียดความกดดันนั้นมาเป็นความสนุก ความลุ้นแบบอารมณ์ดีแทน ที่สำคัญคุณทำทุกอย่างคนเดียวไม่ได้แน่นอน อย่างน้อยต้องมีใครสักคนนึงอยู่ข้างๆคุณ หรือถ้าอยู่ข้างๆคุณไม่ได้ก็มีใครสักคนอยู่ในใจก็ยังดีครับ ขอให้คุณโชคดีและสนุก อารมณ์ดีกับสิ่งที่คุณลุ้นอยู่ครับ รวย รวย รวย...

คุณเคยคิดหรือไม่ครับว่าในหนึ่งอาทิตย์ของคุณคุณได้ใช้ชีวิตและเวลาไปกับอะไรบ้าง งาน เพื่อน แฟน เที่ยว นอน อย่างละเท่าไหร่ หากว่าเราลองมานั่งคิดและสรุปออกมาเป็นตัวเลขผมเชื่อว่าหลายคนไม่ชอบแน่นอน

เราลองมาเปิดปฏิทินดูครับ แล้วก็ขีดเส้นไว้แค่หนึ่งอาทิตย์เท่านั้น ให้ในแต่ละวันของเราทำกิจกรรมไปตามปรกดิเลยครับแล้วเริ่มกันเลย
ผมตื่น 6.00 น.อาบน้ำล้างหน้าแปรงฟัน กินข้าวเช้า ทำธุรส่วนตัวก็ถึง 8.00 น.ได้ครับ
จากเวลา 8.00 น. - 12.00 น. ทำงานอย่างเดียวเลยครับผม อาจจะมีบิดขี้เกียจบ้างแต่ก็นับรวมเป็นเวลางานนั่นแหละครับ

ผ่านไป 6 ชม. เป็นเวลางานซะ 4. ธุระส่วนตัวจำเป็น 2. ความสนุก 0

12.00 - 13.00 เป็นเวลาพักกินข้าวกลางวัน แต่ยังไงชีวิตมันก็เหมือนอยู่ในเวลางานอยู่ดีครับ อาจจะได้คุยโทรศัพท์บ้าง หลับบนโต๊ะบ้างแต่มันก็ไม่ได้สบายไม่ได้รู้สึกอิสระอะไร
จาก 13.00 น. - 17.00 น.ก็เข้าไปทำงานล้วนๆครับ 4 ชม.เต็มๆ บางทียาวไป 6 โมงเย็นก็ไม่แปลกอะไร

ผ่านไปอีก 6 ชม. ชีวิตและร่างกายยังคงวนเวียนอยู่กับการทำงานเป็นหลักครับ เป็นเวลางานซะ 6 ชม.เลยก็ได้

หลังจากทำงานอย่างหนักทั้งวันก็เหนื่อยเพลีย ไม่พอบางคนยังต้องนั่งรถกลับบ้านอีกเป็นชั่วโมง กว่าจะถึงก็ ทุ่มสองทุ่ม หมดเลยครับชีวิตแบบนี้ แล้วความสุขจะมีกี่ชม. ได้คิดถึงแฟนกี่นาที ได้เที่ยวกี่นาที

สรุปแล้ววันๆนึงเราใช้เวลาเกือบทั้งหมดกับการทำงานทั้งสิ้นโดยที่เวลาที่เราจะมีความสุขนั้นน้อยมากจริงๆ โทรศัพท์อาจจะช่วยให้เราได้ชื่นใจกับเสียงคนที่เรารักได้บ้างแต่จริงๆแล้วมันไม่พอเลยสักนิดครับ แต่คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าต้องทำงาน งานคือชีวิต จนยอมรับได้ที่จะเสียเวลาที่มีความสุขไปอย่างย้อนคืนมาไม่ได้ในที่สุด

แน่นอนครับความรวยไม่ใช่เป้าหมายที่แท้จริงของคนที่อยากรวย อย่าเถียงผมเลยครับ ทุกคนอยากรวยเพื่อสิ่งอื่นที่จะตามมามากกว่าลองคิดดูดีดีครับ

อะไรบ้างที่เราอยากได้ในชีวิต คงหนีไม่พ้นบ้าน รถ สำหรับครอบครัวที่อบอุ่น บางคนก็อาจจะชอบรถสปอร์ตและก็ฝันว่าอยากขับสักครั้งในชีวิตอะไรขนาดนั้นเลยทีเดียว ขณะที่คนที่ไม่ได้ชอบบ้านและรถแต่อยากรวยก็มีครับและเป้าหมายของเขาเหล่านั้นคืออะไร แต่อยากจะบอกว่าเป้าหมายต่อไปนี้เป็นแรงกระตุ้นที่มหาศาลกว่าบ้านและรถมากกว่านับค่าไม่ได้เลยครับ

เชื่อมั้ยครัรบว่าเหยื่อล่อให้เราฮึดสู้ต่อทุกๆอย่างได้นั่นคือสาวสวยนั่นเอง ความจริงแล้วไม่ค่อยมีใครพูดถึงเรื่องนี้หรอกครับ ส่วนใหญ่จะพูดในเรื่องอื่นมากกว่าแต่ทั้งๆที่เรื่องจริงแล้วเรื่องหญิงนี่แหละที่ทำให้คนรวยมากแล้วนับไม่ถ้วนเพื่อคำว่าหญิงเท่านั้น

การมีคนรักหรือการมีแฟน หรือว่าการมี่สาวสวยสักคน เชื่อมั้ยครับว่าสิ่งๆนี้เป็นสิ่งที่อยู่ลึกๆในใจของคนทำงานทุกคนก็ว่าได้ ถ้าถามว่าทำไม ผมตอบตรงๆไม่ได้ แต่หากว่าคุณเป็นผู้ชายจริงๆ คุณจะรู้อยู่ในใจคุณเองว่าทำไม

ผู้หญิงเป็นเสมือนทุกๆอย่างของผู้ชายคนนึงจริงๆ จะให้ไปบุกป่า ลุยไฟ ต่อสู้กับอะไรก็ได้ถ้าหากว่าสุดท้ายแล้วมีเธอคนที่รักอยู่ข้างๆ แม้ว่าระหว่างทางนั้นอาจจะไม่ได้พบเจอเลยก็ตามแต่ทีไรทีเขาเหล่านั้นนึกถึงเป้าหมายนี้แล้วมันก็ทำได้ทุกอย่างจริงๆ มันมีอานุภาพเกินสิ่งใดๆในโลกครับ

ที่ผมพูดมานี้ไม่ได้หมายความว่าจะให้ใครตั้งเหยื่อล่อแบบผมที่ยกตัวอย่างนะครับแต่ว่าให้คิดเฉยๆว่าอะไรที่ทำให้คุณใจเต้นได้ ทำให้คุณมีแรงขึ้นมาได้ครับ หาสิ่งนั้นให้เจอและทำให้มันเป็นเหยื่อล่อคุณให้เดินตามไปครับ

หากว่าเราคิดว่าการต่อสู้ชีวิตจริงของเราเป็นเกมส์ๆหนึ่งที่จะมีทั้งแพ้และชนะปะปนกันไปมันก็จะสนุก แต่ว่าเกมส์กับเรื่องจริง ชีวิตจริงนั้นมันก็คนละเรื่องกันก็ต้องยอมรับ ว่าเกมส์เวลาเราแพ้ไม่กี่วินาทีเราก็เล่นใหม่ได้ แต่ว่าชีวิตจริงถ้าแพ้คงต้องใช้เวลากว่าจะกลับมาเริ่มเล่นใหม่ได้

คำว่าแพ้หลายคนไม่อยากจะสะกด หลายคนไม่อยากเห็นแต่มันก็เหลือเกินจริงๆที่ทุกคนบนโลกนี้ต้องรู้จักคำว่าแพ้ ผมเชื่อไม่มีใครในโลกที่ไม่เคยแพ้มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเล็กหรือว่าเรื่องใหญ่อะไรก็ตามมันมีแพ้เสมอ เรายอมรับการแพ้ได้มากแค่ไหน

หากว่าเป็นเรื่องเล็กๆ เราคงไม่ได้คิดอะไรมาก หากใหญ่ขึ้นมาเช่นการทำธุรกิจแพ้คู่แข่งจนบริษัทต้องปิดกิจการอันนี้ใครจะไปยอมรับได้ทันที ณ ขณะนั้น แน่นอนว่าคนเราต้องเรียนรู้การพ่ายแพ้ แต่ว่าเราจะทำยังไงให้เรา ไม่ว่ายังไงก็ไม่แพ้

แน่นอนการฝึกซ้อมการเรียนรู้บางทีเราจะมารู้เอาตอนที่เราแพ้ไปก่อน มีหลายคนจริงๆที่มารู้ตอนที่แพ้ไปแล้ว มาเข้าใจตอนที่พลาดทำผิดไปแล้ว ทุกๆคนแหละ นี่ไง ยังไงก็ไม่แพ้

สุดท้ายแล้วความพ่ายแพ้นั้นกลายเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเจอและจำเป็นต้องเจอเพื่อให้ไม่แพ้ในครั้งต่อไปและแม้ว่าครั้งต่อไปยังแพ้อีกนั่นก็หมายความว่าความพ่ายแพ้กำลังจะทำให้เราแกร่งขึ้นเรื่อยๆ จำเอาไว้ท่องเอาไว้ครับ ยังไงก็ไม่แพ้

แรงเหวี่ยงของความอยากรวยผมว่ามันน่าทึ่งนะครับ เพราะว่าความรวยเป็นเป้าหมายของทุกคนก็ว่าได้ ถามใครๆก็ได้ครับว่าอยากรวยหรือปล่าว เชื่อว่า 100 เปอร์เซ็นต์ต้องตอบว่าอยากรวยแน่นอนหากว่ามีใครตอบว่าไม่อยากรวยก็ปล่อยเขาไปตามเส้นทางเถอะครับ

บางคนจะมาบอกว่ารวยไปก็เท่านั้น ไม่มีความสุขหรอก สู้อยู่แบบธรรมดาดีกว่า ตามใจเลยครับ ใครคิดแบบนั้้นปล่อยเขาไป ตามสบาย เพราะว่าคนเหล่านั้นกำลังหรอกตัวเองเพื่อไม่ให้ตัวเองอยากได้อยากมี และก็จะมีชีวิตอยู่อย่างเดิมๆอย่างนั้นต่อไปเรื่อยๆครับ

ถามว่าคนกลุ่มนี้ถ้าอยากได้บ้านจะได้ไหม คำตอบคือ ไม่ได้ หรือ ถ้าได้ก็ต้องลำบากมากๆ หรือไม่ก็มีภาระต้องส่งบ้านกันทั้งชีวิตเป็นต้น หรือถ้าเป็นผู้ชายอยากมีแฟนสวย อย่างพริตตี้ ถ้าไม่รวยจะมีได้ไหม คำตอบคือพริตตี้ไม่มองแม้แต่หางตา

ถามว่าคุณคิดอย่างไรมากกว่ากับคำว่ารวย แน่นอนว่าต้องลำบาก ต้องฝ่าฟันร้อยแปดก่อนที่จะรวย และก็ไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าจะรวยได้ก็ตาม แต่แรงเหวี่ยงของคำว่ารวยนั้นมีมากมายมหาศาลที่ทำให้ทุกๆคนที่มีความอยากรวยกำลังฝ่าฟันกันอยู่ในทุกๆเวลา ทุกๆนาทีนี้เลย

คนที่รู้จักพอเพียงผมไม่ได้ว่าอะไรนะครับแต่ว่าแรงเหวี่ยงของความอยากรวยก็จะน้อย ความกระตือรือต้นก็จะน้อย ความมุมานะก็จะน้อย เป้าหมายก็จะไม่ชัดเจนเท่ากับคนที่อยากรวย

โดยสรุปแรงเหวี่ยงของความอยากรวยในแต่ละคนนั้นมีไม่เท่ากันครับ ดังนั้นในสังคมเราถึงได้มีคนรวยกลุ่มหนึ่ง คนธรรมดากลุ่มหนึ่ง คนจนกลุ่มหนึ่ง แต่ว่าคนทั้งหมดในสามกลุ่มนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าแรงเหวี่ยงจะมากที่คนกลุ่มคนรวยนะครับ บางทีคนจนก็มีแรงเหวี่ยงที่อยากจะรวยมากกว่าคนรวยด้วยซ้ำไปครับแต่ว่ารอสักวันนึงที่คนเหล่านี้จะรวยเท่านั้นเองครับ พยามกันต่อไป

แน่นอนว่าความไม่สำเร็จมันมักจะมาพบเจอทุกๆคนอยู่เสมอ ไม่รู้ว่าทำไมมันมีเกลื่อนอยู่ทั่วไปให้เราพบเจอมันได้ง่ายเหลือเกิน และความไม่สำเร็จนี้แน่นอนก็เป็นเครื่องบั่นทอนกำลังใจให้ท้อได้เป็นอย่างดี

การท้อเป็นอารมณ์ที่ทุกคนต้องเคยพบเจอมาเป็นอย่างดี แน่นอนว่าไม่เคยมีใครไม่ท้อ ไม่เคยมีใครที่ไม่เคยไม่สำเร็จในสิ่งที่ต้องการ บอกได้เลยว่าทุกคนจริงๆที่ต้องเคยท้อ และต่อมาต้องดูว่าแต่ละคนท้อแล้วยังไงต่อ

บางคนท้อแล้วก็ล้มนอนอยู่ตรงนั้นไม่ลุกไปไหน บางคนท้อแล้วก็หลับตาแล้วเข็ดไม่เอาไม่อยากเจออีกแล้ว บางทีก็ท้อแล้วเกิดความคิดที่ว่าสิ่งที่ทำไปนั้นผิดแล้วไม่กล้าลองอีก ฉนั้นความคิดแบบนี้นี่แหละครับกำลังจะเอาความรวยไปจากคุณ

แต่ถ้าหากว่าคุณท้อผมขอให้คุณท้อไปเลย เต็มที่คุณอยากจะเล่นมิวสิควีดีโอเพลงอะไรตามสบายเลยเต็มที่ ผมให้เวลาคุณท้อ 1 อาทิตย์เต็มๆ จะไปเดินตากฝน จะไปเดินริมทะเล จะไปนอนกลางสนามหญ้า จะไปดูพระอาทิตย์ตกก็เชิญเอาเลย

แต่หลังจากที่เต็มที่กับความท้อแล้ว ให้รวบรวมเอาความอยากรวยกลับมาใหม่ เอาความอยากตรงนั้นกลับมาผลักดันตัวเองให้เดินต่ิอไปให้ได้ ให้กลับไปสู่เส้นทางของความรวยเหมือนเดิมดังที่คุณ อยาก อยากและอยากจะรวย

คุณลองนึกดูหากคุณรวย คุณต้องการอะไรก็จะได้ ไม่ว่าจะเป็น บ้าน รถ แม้แต่ผู้หญิงคุณรวยก็สามารถจะเลือกได้ ลองนึกให้ดีนะครับ หญิงเลยนะครับสิ่งที่จะตอบแทนคุณ



เอาสิ่งต่างๆรอบๆตัวคุณมาผลักคุณขึ้นมาครับ ทำให้เป็นแรงกระตุ้นให้คุณก้าวต่อไปได้ ไม่ว่าอะไร เมื่อคุณท้อเมื่อใดให้นึกถึงสิ่งที่คุณอยากเข้าไว้มากๆครับ เอาเรื่องผมมายกตัวอย่างก็ได้เผื่อจะเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคนได้คิดตามบ้าง

ผมเองไม่ได้รวยอะไรแต่ก็บอกได้ว่าด้วยความอยากมีแฟนมันผลักผมให้ผมพยามทำอะไรบางอย่างเพื่อแฟนหรือว่าพูดง่ายๆเพื่อหญิงอะ เห็นไหมครับอะไรก็ได้ที่คุณอยากได้ อยากมีจะทำให้เกิดแรงกระตุ้นให้เราทำอะไรต่อไปได้

ถ้าหากคุณท้อเมื่อไหร่นึกเลยครับว่าอยากได้ อยากมีอะไร แล้วคุณจะลุกขึ้นมาได้อีกครั้งครับ

แน่นอนครับว่าการคอยจังหวะที่ดีนั้นเวลาเราจะทำอะไรสักอย่างมันจะดีกว่าการที่เราไปแบบสุ่มสี่สุ่มห้า แต่ว่าการที่เรารอคอยจังหวะนั้นโดยที่เราไม่รู้อะไรเลยก็จะทำให้เราต้องรอคอยไปเรื่อยๆ ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ลองอ่านตัวอย่างนี้ดูครับ

นน เป็นพนักงานโรงงานแห่งหนึ่งมีรายได้แค่พอใช้จ่ายเดือนต่อเดือน เงินที่จะเที่ยว เงินที่จะเก็บไม่เคยมี แล้วแบบนี้นนต้องทนกับชีวิตแบบนี้ต่อไปอีกสักเท่าไหร่ นนบอกว่ารอก่อนเราไม่มีเงินทุน นนบอกว่ารอก่อนค่อยๆคิดไปเรื่อยๆ นนบอกว่ารอก่อนเรายังไม่พร้อม สุดท้ายด้วยชีิวตเดิมๆ วันคืนผ่านไปอย่างรวดเร็วด้วยชีวิตเดิมๆ นนก็ยังรอต่อไปโดยไม่มีอะไรดีขึ้น

ที่บอกอย่างนี้ไม่ได้ว่าหรือยุให้ใครหน้ามืดตามัวทำอะไรโดยไม่คิดไม่รอนะครับ แต่กำลังจะบอกว่าให้รออย่างมีขีดจำกัด มีการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนว่าเราจะทำอะไรภายในเท่าไหร่ รอถึงเมื่อไหร่เป็นต้น อย่ารออย่างเดียวแบบไม่มีกำหนด ไม่มีเป้าหมาย

การที่เราจำเริ่มนับหนึ่งทำอะไรก็ต้องมีระยะเวลาที่จะรออย่างชัดเจนครับ เช่นเราต้องการเก็บตังเพื่อเป็นทุนทำธุรกิจสัก 50000 บาท เราต้องเก็บเดือนละเท่าไหร่ ถึงเมื่อไหร่ และระหว่างที่เก็บเราจะทำอะไรเสริมได้หรือไม่ กำหนดลงไปให้ชัดว่า วันที่ เดือน ปีนี้เราต้องได้ เมื่อเวลาที่วางเอาไว้มาถึงหากว่าเราไม่ได้ตามเป้าหมายอย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่าเราต้องทำอะไรเพิ่มมากขึ้นบ้าง

อันนี้เป็นแค่แนวคิดที่พยามจะบอกว่ารอได้แต่อย่ารอคอยอย่างเดียว ควรรอย่างมีกำหนดการ มีเป้าหมายครับ

เรื่องของเวลากับการคิดที่จะรวยก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้สิ่งอื่นๆเลย ซึ่งถ้าเราลองนึกดูเหมือนกับการที่เราจะจีบสาวสักคนนึงถ้าหากว่าเราไม่มีเวลาสิ่งต่างๆที่ทำไปก็อาจจะไม่ได้ทำให้คุณได้ใจเขาคนนั้นเท่าไหร่เพราะว่าคุณไม่มีเวลาเอาใจใส่เธอคนนั้นนั่นเอง เหมือนกันกับการที่เราจะทำธุระกิจหรือคิดจะรวยก้วยวิธีการใดๆก็ตาม ต้องมีเวลา

หากว่าในหนึ่งวันเรานอน 8 ชม. ดังนั้นเราก็จะเหลือเวลาที่จะใช้ชีวิตทำอะไรในแต่ละวันวันละ 16 ชม. ถ้าเรามีงานประจำอยู่แล้วก็ต้องทำงานประจำอย่างน้อย 8 ชม. เวลาเดินทางไปกลับอีกก็ 2 ชม. รวม 10 ชม. ตอนนี้เราเหลือเวลาอีก 6 ชม. ที่เราจะทำอะไรบางอย่างให้เราไปสู่คำที่ว่ารวย

6 ชม.นี้ คุณคิดว่าทำอะไรได้บ้าง สำหรับคนที่มีความคิดหรือได้ลองออกก้าวเดินไปก่อนบทความนี้ผมเชื่อว่า 6 ชม.นี้เป็นเวลาที่เป็นเงินเป็นทองจริงๆ แต่ไม่ต้องตกใจหรือน้อยใจไปว่าเราคิดอะไรไม่ออก ไม่รู้จะเปลี่ยนเวลา 6 ชม.นี้ไปทำอะไรดี เพราะว่าไม่มีใครทุกคนหรอกที่คิดได้ว่า 6 ชม.นี้จะไปทำอะไรให้รวย
ไม่อย่างนั้นก็คงไม่มีใครจนหรืออยากรวยอีกต่อไปแล้ว

ผมอยากให้ 6 ชม.นี้ในแต่ละวันคุณได้คิด คุณได้ศึกษา หาทางต่างๆ ไม่ต้องใหญ่ก็ได้ เริ่มจากการคิดว่าคุณต้องการทำให้ 6 ชม.นี้ได้เงินเท่าไหร่ โจทย์แรก

ต่อมาคุณจะทำอย่างไรให้ได้เงินที่คุณตั้งไว้ในโจทย์แรก แล้วก็ตามมาด้วยจะเริ่มเมื่อไหร่ หากว่าคุณพร้อมผมแนะนำให้คุณเริ่มเดินทันทีครับ เพราะว่าเวลาไม่เคยขี้เกียจ เวลาไม่เคยคิดที่จะหยุดเิดินเลย ยิ่งถ้าคุณออกเดินเร็วเท่าไหร่แม้คุณจะยังไม่รวยแต่คุณก็จะได้รู้เร็วขึ้นเท่านั้นครับ

ก่อนที่เราจะเดินทางไปสู่ความร่ำรวย คุณรู้เส้นทางหรือยัง ตรวจดูให้แน่ใจนะครับว่า ทางที่คุณกำลังจะก้าวออกเดินไปนั้นปลายทางมันอยู่ที่ไหน จะต้องพบเจออะไรระหว่างทางบ้าง

แน่นอนครับหลายคนคงถามว่าถ้าหากรู้เส้นทางกันทุกคนก็รวยกันทุกคนนะสิ ใช่ครับถ้าหากว่าเรารู้เส้นทางกันทุกคน วันนี้ไม่มีใครไม่รวยแน่นอน แต่ที่ผมบอกว่าเราควรดูเส้นทางตรวจเส้นทางนั้นหมายความว่าให้เราลองคิด หรือสมมติดูว่าถ้าเราเดินไปแล้วเจอหลุมเราจะหลบยังไง ทางซ้ายไปได้ไหม ทางขวาะเจออะไรต่อ

ถ้าหากว่าเราเหนื่อยเราจะพักที่ไหน ใต้ต้นไม้ต้นนี้มีอะไรหรือปล่าวนอนพักได้หรือไม่ หรือว่าเราควรจะมีผ้าปูหรือจะเตรียมเต็นท์ไปเลยดีกว่าไหมเป็นต้น

โดยรวมแล้วเป็นการเตรียมความพร้อมมากกว่าโดยเหมือนกับให้เราจำลองเหตุการณืที่เราคิดว่าเราจะต้องเจอและผมเชื่อว่ามันต้องเจอแน่ๆ ไม่มีใครที่จะเดินทางไปได้ตลอดรอดฝั่งโดยที่ไม่มีสะดุดหรอก อยู่ที่ว่าคนคนไหนจะเดินฝ่าไป อดทนไปเรื่อยๆ จนกระทั่งผ่านไป พ้นไปได้

และคนที่ผ่านไปได้ และพ้นไปได้นั่นแหละครับคือคนที่รวยจริงๆ

ก่อนที่เราจะลงมือทำอะไรสักอย่างไม่ว่าจะเป็นอะไรก็แล้วแต่เราต้องมีเครื่องมือที่จะช่วยเหลือเราเสมอ เราเองตัวเราเองไม่อาจจะทำอะไรได้โดยมือปล่าวอย่างแน่นอน เรามีแนวคิดอย่างไรบ้างเกี่ยวกับเครื่องมือที่ว่าลองมาดูกัน

1.เครื่องมือทางความคิด ก่อนที่เราจะทำอะไรได้ต่อไปแน่นอนว่าความคิดเราต้องเดินหน้าไปก่อนเสมอ ดังนั้นคนจะรวยได้ก็ต้องมีความคิดว่าจะรวย ต้องรวย รวยได้เป็นต้น หากว่าเรายังไม่สามารถมั่นใจในตัวเองว่าเราจะเดินไปได้ ก็ต้องหาทางทำให้ใจเราคิดแบบนั้นได้เช่นการอ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาต่างๆ ที่จะสามารถช่วยเปลี่ยนทรรศนะคติของเราให้คิดในสิ่งที่ต้องการได้

2.คน คนในที่นี้หมายถึงคนที่เราสามารถปรึกษา หาความรู้ ขอความช่วยเหลือ แนะนำในเรื่องต่างๆได้ อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นญาติพี่้น้องหรือคนรู้จักเราก็ได้ แต่เป็นใครก็ได้ที่เราสามารถเดินเข้าไปถามเพื่อหาความรู้ได้ อย่างเช่น อาจารย์ในมหาลัยต่างๆเป็นต้น หรือจะเป็น เจ้าของร้านหรือกิจการต่างๆที่เราอยากรู้ก็เข้าไปพูดคุยกับเขาเลยเชื่อว่าถ้าเราตั้งใจจริงๆ เราจะสามารถคุยด้วยได้กับทุกคนครับ

3.ทุน แน่นอนว่าหลายคนหนักใจกับเรื่องเงิน แต่อย่างที่บอกครับว่าถ้าเรามีข้อแรกแล้วทุกอย่างมันจะมีทางออกได้เอง ทุนมาจากหลายที่ มาได้จากหลายทาง บางครั้งเราไม่ต้องไปหามันก็มาเองลองดูครับ

4.กำลังใจ แ่น่นอนว่ากำลังใจเป็นเครื่องมือที่สำคัญที่สุดในการที่จะทำอะไรสักอย่างนึงให้สำเร็จหากว่าเราทำอะไรโดยขาดแรงใจแล้วแน่นอนว่ายังไงก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จได้ครับ

ก่อนที่เราจะรวยได้นั้นเราต้องมีอะไรบ้าง เคยคิดหรือไม่ครับว่าคนที่เค้าร่ำรวยส่วนใหญ่นั้นเขามีอะไร เขาเด่นอะไรวันนี้เริ่มต้นผมว่าเราลองหันกลับมามองตัวเราเองตั้งแต่วันนี้เลยดีกว่าครับ

สำรวจตัวเองก่อนรวย
1.ชอบอะไร ถ้าถามผมแล้วผมก็ตอบได้ว่า ชอบอะไรที่มันง่ายๆ สบายๆ ไม่ต้องร้อน ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องทำงานหนัก และก็เชื่อว่าหลายนก็คิดเหมือนกัน และสิ่งที่สำคัญที่สุดนั่นก็คืออะไรก็ได้ที่ทำแล้วมีความสุข
สรุปได้ว่าไม่ชอบทำงานนั่นเอง เชื่อว่าทุกคนก็เหมือนกันนั่นแหละครับ

2.ร่างกายเรามีอะไรบ้าง บางครั้งถ้าหากว่าเราอยากรวยเราอาจจะสร้างเงินมาจากร่างกายเราก็เป็นไปได้อย่างเช่น ดารา นักร้อง นักแสดง เค้าก็ต่างสร้างเงินขึ้นมาได้ด้วยตัวของเค้าเองจากหน้าตาของเค้าเองทั้งนั้น แต่เราอาจจะไม่ต้องหน้าตาดีก็ได้ อย่างเช่นถ้าเราหน้าตาตลก เราก็อาจจะดังได้เช่นกัน ทุกอย่างสามารถมองต่างและเด่นได้ด้วยกันทั้งนั้น

3.ทุนทรัพย์ เรื่องนี้เชื่อว่าหลายๆคนที่อยากรวยยังไม่มีแน่นอนเพราะว่าถ้าหากว่ามีแล้วคงไม่มาหาวิธีการรวยแบบนี้แน่ๆ ทุนก็มีวิธีการหาได้หลายวิธีครับ ไม่ว่าจะกู้ ยืม ขอพ่อแม่ พี่น้อง ญาติ เพื่อน คนสนิท แฟน ขายบ้าน ขายรถก็แล้วแต่จะแลกกันละครับ

4.ความคิด คุณคิดว่าคุณจะรวยได้จริงๆหรือไม่ ถ้าหากคุณลองถามใจตัวคุณเองแล้วได้คำตอบว่าต้องรวยแน่ๆผมเชียร์ให้คุณทำสิ่งที่คุณตั้งใจได้เลยครับ เพราะว่าถ้าหากว่าใจของคุณตอบมาอย่างมั่นใจว่ายังไงก็ต้องรวย แสดงว่าใจคุณมั่นคงแล้วความสำเร็จมีโอกาสจะเกิดขึ้นได้สูงครับ